ธอส. เปิดประมูลบ้านมือสองในงาน NPA Grand Sale 2022

ธอส. เปิดประมูลบ้านมือสองในงาน NPA Grand Sale 2022

พบกับบ้านมือสอง ธอส. กว่า 400 รายการ ที่งาน NPA Grand Sale 2022 ลดราคาสูงสุดถึง 40% ราคาเริ่มต้นต่ำสุดแค่ 1 แสนบาท (30 มิ.ย. 2565) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ร่วมออกบูธในงาน มหกรรมสินเชื่อบ้าน และบ้านมือสองแห่งปี : NPA Grand Sale 2022 นำบ้านมือสองคุณภาพดี ทำเลเด่น และราคาคุ้มค่ารวมกว่า 400 รายการ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาทั้งประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และห้องชุด(คอนโดมิเนียม) มอบส่วนลดสูงสุดถึง 40% จากราคาปกติ

โดยทรัพย์ที่มีราคาขายต่ำสุดเริ่มต้นเพียงแค่ 100,000 บาท 

คือ คอนโดมิเนียม ชั้น 5 จาก 5 ชั้น เนื้อที่ 23.62 ตารางเมตร ในโครงการคูณเจริญคอนโดทาวน์ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

ขณะที่ทรัพย์เด่นทำเลดีที่น่าสนใจ ได้แก่

– บ้านแฝด เนื้อที่ 45 ตารางวา ในโครงการลภาวัน 21 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ราคาจำหน่าย 3,510,000 บาท โดยเป็นทรัพย์ที่อยู่ในกลางเมืองนนทบุรี เดินทางได้หลายเส้นทาง และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ โรงเรียน โรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้า

– คอนโดมิเนียม เนื้อที่ 34.89 ตารางเมตร ในโครงการควินน์รัชดา 17 เขตดินแดง กรุงเทพฯ ราคาจำหน่าย 3,870,000 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์ที่ตั้งอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสุทธิสารเพียง 400 เมตรเท่านั้น

พิเศษ!! ผู้ซื้อบ้านมือสองของ ธอส. สามารถผ่อนดาวน์ดอกเบี้ย 0% ต่อปี นานสูงสุดถึง 24 เดือนอีกด้วย ผู้ที่สนใจสามารถวางเงินประกันการซื้อเพียง 1,000 บาท สำหรับจองซื้อบ้านมือสองภายในงาน

พิเศษ!! ผู้ที่ลงทะเบียนจองซื้อยังจะได้รับกระเป๋าพับอเนกประสงค์ 1 ราย ต่อ 1 ใบฟรีทันที

นอกจากนี้ ธนาคารยังคัดบ้านมือสอง ธอส. ราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท จำนวนกว่า 4,000 รายการทั่วประเทศ ในโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 พร้อมด้วยโปรโมชั่นสินเชื่อดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรก 1.99% ต่อปี มาร่วมในงาน เพียงลูกค้าเลือกซื้อและวางเงินประกันการซื้อทรัพย์ จำนวน 5,000 บาท ฟรี ! ค่าประกันอัคคีภัย 3 ปีแรก สำหรับลูกค้า 150 คนแรก ที่ซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 2 เดือนนับจากวันทำสัญญาจะซื้อจะขาย

ทั้งนี้ งานมหกรรมสินเชื่อบ้าน และบ้านมือสองแห่งปี : NPA Grand Sale 2022 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 กรกฎาคม 2565 ณ Hall 8 อิมแพค เมืองทองธานี

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารได้ที่ GHBank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th, Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ Application : GHB ALL

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 

กล่าวว่า มาตรการเสริมมีส่วนสำคัญในการผลักดันด้านราคายางพาราให้สูงขึ้นและรัฐบาลก็ทำคู่ขนานกันไปกับโครงการประกันรายได้ เช่น มาตรการกำกับดูแลด้านปริมาณ โดยผู้ประกอบกิจการยางที่มีปริมาณการรับซื้อตั้งแต่เดือนละ 5,000 กก.ขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณการซื้อ ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณการใช้ไป ปริมาณคงเหลือ และ สถานที่เก็บสินค้ายางพารา ตลอดจนให้จัดทำบัญชีคุมรายวัน มาตรการการส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐ ระหว่าง ต.ค. 62 – ก.ย. 65 มาตรการสนับสนุนสินเชื่อ 5 โครงการ คือ

1.โครงการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อใช้ในการรวบรวมยาง วงเงิน 10,000 ล้านบาท ระยะเวลาจ่ายเงินกู้ 1 เม.ย. 63 – 31 มี.ค. 64

2.โครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรเพื่อแปรรูปยางพารา วงเงิน 5,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินงาน 1 ก.ย. 57 – 31 ธ.ค. 67

3.โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง ชนิดยางแห้ง 20,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินงาน ม.ค. 63 – ธ.ค. 64

4.โครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง วงเงินสินเชื่อ 25,000 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ ปี 59 – 69 โดยสนับสนุนวงเงินชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ อัตราร้อยละ 3 ไม่เกิน 600 ล้านบาท เป็นต้น

มุ่งยกระดับการพัฒนาโครงการที่เพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้เข้มข้นขึ้นด้วย แน่นอนว่าเรื่องทำเลต้องโดดเด่น และคุณภาพของสินค้าจะต้องดีกว่าเดิม ทั้งด้านฟังก์ชั่นการดีไซน์ และมีแบรนด์ที่ดี รวมถึงเรื่องการกำหนดราคาจะต้องน่าสนใจมากกว่าที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ในภาวะที่ตลาดไม่หวือหวาเหมือนสมัยก่อน จะสามารถสร้างรายได้ระยะยาว ที่สามารถสร้างเป็นรายได้ (Passive income) จากทรัพย์สิน และสร้าง Capital Gain ให้กับธุรกิจได้ในระยะยาว” นายชนินทร์ กล่าวสรุป

เชิงบวกต่อเศรษฐกิจโลก รวมทั้งในประเทศไทยที่เศรษฐกิจจะมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้ Sentiment ของตลาดน่าจะดีขึ้นจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน ความมั่นใจเริ่มกลับมา การเดินทางเริ่มมีมากขึ้น ย่อมส่งผลดีต่อตลาดอสังหาฯโดยเฉพาะในครึ่งหลังปี 2564

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า